สำนักปฏิบัติธรรมประจำจังหวัดดีเด่น ปี พ.ศ. ๒๕๕๔
วัดอาจาโรรังสี
บ้านคำข่า ต.ไร่ อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร ๔๗๑๓๐
โทร. ๐-๔๒๙๘-๑๐๘๗

หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี
ดับขันธ์วันเพ็ญขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือนอ้าย
พุทธศักราช ๒๕๓๗

       

หลวงพ่อพระพุทธสัมฤทธิ์พิชิตมาร

อาคารพิพิธภัณฑ์ ๑๐๐ ปี

ประวัติหลวงปู่เทศก์

ธรรมเทศนาของ หลวงปู่เทศก์

จดหมายจากสมเด็จพระสังฆราชกับหลวงปู่เทสก์

หลวงพ่อพระพุทธสัมฤทธิ์พิชิตมาร

อาคารพิพิธภัณฑ์ ๑๐๐ ปี

หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี

ห้องภาวนาธรรม

สมเด็จพระสังฆราชกับหลวงปู่เทสก์

           
              สนทนาธรรมกับลูกศิษย์
      โดย พระอธิการทรงวุฒิ ธมฺมวโร
                วัดอาจาโรรังสี
            
          
       
                

 


เกียรติบัตรประกาศเป็นสำนักปฏิบัติธรรมประจำจังหวัดดีเด่น
ปีพุทธศักราช ๒๕๕๔

 

พระอธิการทรงวุฒิ ธมฺมวโร
รับพัด สธจ.ดีเด่น
ปี พ.ศ. ๒๕๕๔




พระอธิการทรงวุฒิ ธมฺมวโร
รับพัด สธจ.ดีเด่น ปี พ.ศ. ๒๕๕๔
( สำนักปฏิบัติธรรมประจำจังหวัด
ดีเด่น ปี พ.ศ. ๒๕๕๔ )
ซึ่งรับ ณ วัดพิชยญาติการาม
เมื่อ ๒๖ ธันวาคม ๒๕๕๔





พระอธิการทรงวุฒิ  ธฺมมวโร  
ได้รับพระราชทานเกียรติบัตร
ผู้ทำคุณประโยชน์ต่อพระพุทธศาสนา ประเภทส่งเสริม
การปฏิบติธรรม
ณ พลับพลามณฑลพิธี
ท้องสนามหลวง 
วันที่  ๑๘  พฤษภาคม  ๒๕๕๖

 


 

แจ้งข่าวการกุศล
เรื่องการก่อสร้างกำแพงวัด
ตั้งแต่ ๒๖ เมษายน ๒๕๕๖

บันทึกเล่าเรื่อง...เที่ยวเมืองพม่า
โดย พระอธิการทรงวุฒิ  ธมฺมวโร
วัดอาจาโรรังสี

 เมื่อข้าพเจ้าไปเฝ้าสมเด็จพ่อ
ครั้งที่ ๔

โดย พระอธิการทรงวุฒิ  ธมฺมวโร
วัดอาจาโรรังสี

                 
       
         
      
            
 

 
 

วิหารพระบาง
       ครั้นเมื่อเริ่มแรกก่อตั้งวัดอาจาโรรังสี   คุณนิธิมา  สุรัติอันตรา   เจ้าของและผู้จัดการโรงหล่อพระพุทธภัณฑ์ ซึ่งเป็นผู้หล่อ
พระบางดังกล่าวทั้งหมดมาแต่เริ่มแรก มีศรัทธาปวารณาสร้างพระบางองค์ใหญ่นั้นถวาย เพื่อประจำวัดนี้ โดยมีคุณธานินทร์ พันธุ์ประภากิจเป็นผู้บริจาคโลหะทองแดงที่ใช้ในการหล่อพระร่วมด้วย   การหล่อกระทำที่โรงหล่อพระพุทธภัณฑ์ 
อ.นครชัยศรี จ. นครปฐม สำเร็จเรียบร้อยและส่งพระถึงวัดเมื่อต้นปี  พ.ศ. ๒๕๔๑  ซึ่งข้าพเจ้าได้สร้างโรงมุงหลังคาสังกะสี
เป็นที่ประดิษฐานพระบางองค์นี้ไว้เป็นการชั่วคราว   กะไว้ในใจว่าเมื่อมีกำลังทุนทรัพย์เมื่อใดจึงจะสร้างวิหารประดิษฐาน
เป็นการถาวร   ทั้งคุณนิธิมาก็ปวารณาที่ปิดทองคำเปลวถวายให้ด้วย
       เมื่อเริ่มดำเนินการสร้างวัด  จำเป็นต้องติดต่อกับบุคคลและหน่วยงานต่างๆ  จึงต้องมีตราวัดเป็นสัญลักษณ์  ข้าพเจ้าจึงถือนิมิตหมายเอาพระพุทธรูปองค์นี้  เป็นศุภสิรินิมิตมงคลตลอด
       ประมาณเดือนเมษายน  พ.ศ. ๒๕๔๕  พันเอกอัธยา  สุคนธสิงห์  ได้มาพบกับข้าพเจ้าที่วัดทั้งหารือว่า  มีกุศลศรัทธาจะสร้างถาวรวัตถุถวายไว้ในพระพุทธศาสนา  ณ  วัดอาจาโรรังสีแห่งนี้ข้าพเจ้าจึงปรารภเรื่องวิหารประดิษฐานพระบางที่ถาวร     เพื่อพุทธศาสนิกชนจะได้กราบไหว้สักการบูชา   ทั้งให้เป็นศรีสง่าแก่วัดอีกด้วย   เพราะถือว่าเป็นพระพุทธรูปสำคัญมาแต่เริ่มก่อตั้งวัดจนเจริญรุ่งเรืองเป็นลำดับมา  พันเอกอัธยา   ก็สนับสนุนให้ข้าพเจ้าดำเนินการทันที  ในเรื่องรูปแบบและขนาด  ก็สุดแล้วแต่ข้าพเจ้าจะเห็นสมควร   พร้อมกับปวารณาทุนทรัพย์  เพื่อการนี้จำนวน  ๑๐๐,๐๐๐  บาท  ข้าพเจ้าก็รับที่จะฉลองศรัทธา
       ตราบจนเดือนกรกฎาคม  พ.ศ. ๒๕๔๕   จึงได้เริ่มดำเนินการก่อสร้างเป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก  ทรงไทย  ขนาดกว้าง x ยาว =  ๓.๔๓ x ๕.๗๕  เมตร  อาคารหลังนี้ไม่มีช่อฟ้า  มีใบระกาน่องสิงห์เรียงลำดับขึ้นไปรับยอดแหลมของจั่วลายดอกบัวลักษณะแว่นเวียนเทียน  หางหงส์แบบหัวนาค  บัวหัวเสาปูนปั้นกาบพรหมศร  มีลายคูหาประกอบ  ๓  ด้าน   หน้าบันทั้งสองด้านจับเหลี่ยมปั้นปูนลายเส้นรัศมีครึ่งวงกลม  (ลายก้านตาล)  ตรงกลางรัศมีปั้นปูนอักษรไขว้ย่อ  “อส”  ทรงดอกบัวตูม 
ด้านทิศเหนือปั้นปูนจารึกข้อความ “วิหารพระบาง-๑๐๐ปี  ปู่เทสก์ เทสรังสี-สุคนธสิงห์” ด้านทิศใต้  “สุคนธสิงห์  พ.ศ.๒๕๔๕”  หลังคามุงด้วยกระเบื้องเซรามิคเอ็กซ์เซลลาสีแดง  เพดานทำด้วยไม้ฝาตราช้างของบริษัทปูนซีเมนต์ไทย   ภายในอาคารประดับลวดลายดวงดาวเพดาน  และปีกค้างคาวปิดทองร่องกระจก  พื้นวิหารปูด้วยหินแกรนิต  โดยศรัทธาของคุณกิตติ   รุ่งเรืองระยับกุล  พร้อมครอบครัวจัดมาถวาย  รูปสิงห์เขมรบนหัวเสาบันไดทางขึ้นทั้งสองข้าง   คณธนัญ   โกศัลวัฒน์ 
เป็นผู้จัดหามาถวาย   การก่อสร้างสิ้นทุนทรัพย์  ๒๑๐,๔๗๕  บาท  เมื่อ  พ.อ. อัธยา  สุคนธสิงห์  ทราบค่าใช้จ่ายที่แท้จริง   
ก็มีศรัทธาปวารณาถวายให้จนครบจำนวน    ส่วนกระเบื้องมุงหลังคาและไม้ฝ้า  เพดานนั้นเป็นศรัทธาของคุณสมเกียรติ
ปานพูนทรัพย์   พร้อมญาติมิตร  ถวายมาทั้งหมด  
                                                        

 

หลวงพ่อพระบาง
       หลวงพ่อพระบาง เป็นพระพุทธรูปยืนปางห้ามญาติ หรือห้ามสมุทรก็เรียกพระพุทธรูป
ปางนี้เป็นพระคู่บ้านคู่เมืองของนครหลวงพระบาง   สปป. ลาว  เรียกกันว่า   “พระบาง”
และเป็นที่ทราบกันดีว่าชื่อเมือง  “หลวงพระบาง”  นั้น   มาจากพระพุทธรูปองค์นี้ 
ในสมัยที่พระเดชพระคุณหลวงปู่เทสก์  เทสรังสี  จำพรรษาอยู่วัดอรัญญวาสี  อ.ท่าบ่อ 
จ.หนองคาย    คุณย่าของโยมธเนตร  เอียสกุล  (กิมก่าย)  ซึ่งขณะนั้นมีภูมิลำเนา
อยู่ในนครเวียงจันทร์ สปป.ลาว  ได้พระบาง  (จำลอง)  มาถวายหลวงปู่  ๑ องค์  
ท่านหลวงปู่เก็บรักษาและบูชามาโดยตลอด   ทั้งได้กล่าวยกย่องถึงพุทธคุณของ
พระพุทธรูปองค์นี้อยู่เสมอๆ  ต่อมาคณะศิษย์   ได้ปวารณาขออนุญาตสร้างพระบาง
ขนาดความสูง  ๑๗๕  ซม. (เฉพาะองค์พระ)  ซึ่งเท่ากับความสูงของท่านหลวงปู่ 
โดยขยายแบบจากองค์เดิมเพื่อประดิษฐาน  ณ  วัดหินหมากเป้ง  จ.หนองคาย  
วัดพระธาตุเขาน้อย  อ.สวนผึ้ง  จ.ราชบุรี  และวัดถ้ำขาม  จ.สกลนคร  แห่งละ  ๑  องค์  
ซึ่งได้ดำเนินการเรียบร้อยแล้ว  โดยมีข้าพเจ้าเป็นผู้ดำเนินการฉลองศรัทธาคณะเจ้าภาพ 
ตั้งแต่ก่อนท่านหลวงปู่จะมรณภาพ


             

     

สถิติวันนี้

 23 คน

สถิติทั้งหมด

149753 คน

เริ่มเมื่อ 2011-12-10


วัดอาจาโรรังสี บ้านคำข่า ต.ไร่ อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร ๔๗๑๓๐ โทร. ๐-๔๒๙๘-๑๐๘๗